More convenient by joining
Face Recondition
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (ต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า"สสปน.") ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคล (รวมเรียกว่า "ข้อมูล" ของลูกค้า) หรือ (Personal Data Protection Policy) ผู้เข้าชมหรือใช้งานเว็บไซต์ รวมทั้งระบบแอปพลิเคชัน อุปกรณ์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นซึ่งควบคุมดูแลโดย สสปน. ผู้เข้าร่วมโครงการและร่วมกิจกรรม ผู้เข้าร่วมงานแสดง ผู้สื่อข่าว อินฟลูเอนเซอร์ บล็อกเกอร์ (รวมเรียกว่า “ท่าน") และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ในเรื่องการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของท่านเป็นสำคัญ เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่า สสปน. มีความโปร่งใสและความรับผิดชอบใน การเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ("กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล") และนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับงานธุรกิจ ("นโยบาย") รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ที่จัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านได้ทราบและเข้าใจรูปแบบ วัตถุประสงค์ วิธีการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า "การประมวลผล " ข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ของท่่าน ภายใต้ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งดำเนินการโดย สสปน. รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่ เกี่ยวข้องผู้ดำเนินการแทนหรือในนามของ สสปน. โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้
1. คำนิยาม
“สำนักงาน" หมายความว่า สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “สสปน.”
“ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่ ได้แก่ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือ อ่อนไหว” ปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ
ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลจำลองใบหน้า หรือข้อมูลจำลองม่านตา เป็นต้น)
2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ สสปน. เก็บรวบรวม สสปน. เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สสปน. เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่าง ๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน ลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจหรือใช้งานกิจกรรม บริการ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดย สสปน. หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับ สสปน. ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดย สสปน. เป็นต้น
2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สสปน. เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) กิจกรรมหรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่นการติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ กิจกรรมหรือบริการของ สสปน. ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากชอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สสปน. เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่ สสปน. เช่น จากความจำเป็นเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญาได้
4) บันทึกการติดต่อของท่านกับ สสปน. ซึ่งเก็บในรูปแบบของบันทึกข้อความของผู้รับบริการการประเมินความพืงพอใจ กรวิจัยและสถิติ หรือ การบันทึกเสียงสนทนา หมายเลขผู้โทรศัพท์เข้า หรือการบันทึกภาพผ่านกล้องรักษาความปลอดภัย (CCTV) เมื่อท่านติดต่อกับสำนักงานของสสปน. รวมไปถึงการให้ข้อมูลผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น SMS Social Media แอปพลิเคชัน และ อืเมล เป็นต้น
5) ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ของท่านเมื่อท่านใช้ข้อมูลและรหัสการเข้าระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (social media credential) เช่น Facebook Twitter Line เพื่อเชื่อมต่อหรือเข้าสู่บริการใดๆ ของสสปน. เช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (social media account ID) สิ่งที่สนใจ (interests) รายการที่ชอบ (ikes) และรายชื่อเพื่อนของท่าน ท่านสามารถควบคุมการจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ผ่านการตั้งค่าบัญชีสื่อ สังคมออนไลน์ที่จัดทำไว้ให้โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ของท่าน
6) ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับ สสปน.เมื่อสร้างบัญชีออนไลน์ หรือบัญชีของแอปพลิเคชัน โดยทั่วไปบริการเหล่านี้กำหนดไว้สำหรับเจ้าของบัญชีที่ลงทะเบียนเท่านั้น หากท่านเลือกที่จะให้บุคคลอื่น เช่น สมาชิกในครอบครัวหรือตัวแทนของท่านใช้บัญชีของท่าน ท่านควรให้บุคคลนั้นๆ ศึกษานโยบายนี้อย่างละเอียด
7) ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านที่ สสปน.ได้รับจากคู่สัญญาหรือพันธมิตรทางธุรกิจและจากบุคคลที่สามที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการให้บริการ เช่น ข้อมูลที่ได้รับจากผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับ สสปน.
8) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สสปน.ได้รับเกี่ยวกับตัวท่านจากข้อมูลสาธารณะ (public records) และ/หรือ
9) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากหน่วยงานภาครัฐ และ/หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นๆ แก่ สสปน. ดังนั้น ท่านจึงมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้ หรือนโยบายของกิจกรรมหรือบริการ แล้วแต่กรณี ให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่ สสปน.
ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของ สสปน. อาจเป็นผลให้สสปน. ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่ท่านได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
3. ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
สสปน. พิจารณากำหนดฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความเหมาะสมและตามบริบทของการให้บริการ ทั้งนี้ ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ สสปน. ใช้ ประกอบด้วย
ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูล | รายละเอียด |
---|---|
3.1 เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐที่ สสปน. ได้รับ | เพื่อให้ สสปน. สามารถใช้อำนาจรัฐและดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะตามพันธกิจ สสปน. ซึ่งกำหนดไว้ตามกฎหมาย เช่น - พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2545 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึง กฎ ระเบียบ คำสั่งและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น |
3.2 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย | เพื่อให้ สสปน. สามารถปฏิบัติตามที่กฎหมายที่ควบคุม สสปน. เช่น - พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 พระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542 กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร รวมถึง กฎ ระเบียบ คำสั่งและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินการตามคำสั่งศาล เป็นต้น |
3.3 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ สสปน. และของบุคคลอื่น ซึ่งประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อกิจการภายในของ สสปน. เป็นต้น |
3.4 เป็นการจำเป็นเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย | เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เช่น การเก็บเอกสารสัญญาที่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่หมดอายุความตามกฎหมาย |
3.5 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา | เพื่อให้ สสปน. สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือดำเนินการอันเป็นความจำเป็นต่อการเข้าทำสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับ สสปน. เช่น จ้างทำของ จ้างเหมาบริการ การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือสัญญาในรูปแบบอื่น เป็นต้น |
3.6 เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์วิจัยหรือสถิติที่สำคัญ | เพื่อให้ สสปน. สามารถจัดทำหรือสนับสนุนการจัดทำเอกสาร ประวัติศาสตร์ วิจัยหรือสถิติตามที่ สสปน. อาจได้รับมอบหมาย |
3.7 ความยินยอมของท่าน | เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่สสปน. จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่าน โดยได้มีการแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการขอความยินยอมแล้ว เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวด้วยวัตถุประสงค์ที่ไม่เป็นไปตามข้อยกเว้นมาตรา 24 หรือ 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือการนำเสนอ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมและบริการของคู่สัญญาหรือพันธมิตรทางธุรกิจแก่ท่านเป็นต้น |
ในกรณีที่ สสปน. มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเพื่อความจำเป็นในการเข้าทำสัญญา หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม อาจมีผลทำให้ สสปน. ไม่สามารถดำเนินการหรือในบริการตามที่ท่านร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
4. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ สสปน. เก็บรวบรวม
สสปน. อาจเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการที่ท่านใช้หรือบริบทความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับ สสปน. รวมถึงข้อพิจารณาอื่นที่มีผลกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยประเภทของข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของ สสปน. เป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหรือบริการที่ท่านใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูล | รายละเอียด |
---|---|
4.1 ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคลสสปน. | ข้อมูลระบุชื่อเรียกของท่านหรือข้อมูลจากเอกสารราชการที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของท่าน (รวมถึงสำเนาบัตรที่เกี่ยวข้อง) เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ลายมือชื่อ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ เลขที่หนังสือเดินทาง หมายเลขใบประกอบการ หมายเลขใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพ (สำหรับแต่ละอาชีพ) เป็นต้น |
4.2 ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล | ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวท่าน เช่น วันเดือนปีเกิด เพศ ส่วนสูง อายุ ภาษาพูด รูปถ่าย ข้อมูลพฤติกรรม ความชื่นชอบ เป็นต้น |
4.3 ข้อมูลสำหรับการติดต่อ | ข้อมูลเพื่อการติดต่อท่าน เช่น เบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ที่อยู่สำนักงาน แผนที่ตั้งสำนักงาน ที่อยู่ รหัสไปรษณีย์ แผนที่ตั้งของที่พัก ชื่อผู้ใช้งานใน สังคมออนไลน์ (Line ID, Facebook ID, MS Teams) เป็นต้น |
4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา | ประวัติการศึกษา เช่น ตำแหน่ง หน่วยงาน หมายเลขหนังสือ เดินทาง (กรณีต่างชาติ) สถานที่ทำงาน ตำแหน่ง หน้าที่ ความ เชี่ยวชาญ ประวัติการทำงาน ประเภทของอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา วุฒิการศึกษา |
4.5 ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของ | รายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมหรือบริการของ สสปน. เช่น ชื่อบัญชี ผู้ใช้งาน รหัสผ่าน หมายเลข PIN ข้อมูล Single Sign-on (SSO ID) รหัส OTP ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลระบุพิกัด ภาพถ่าย วิดีโอ บันทึกเสียง ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน (เว็บไซต์ที่อยู่ในความดูแลของ สสปน. หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ) ประวัติการสืบค้น คุกกี้หรือเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน หมายเลขอุปกรณ์ (Device ID) ประเภทอุปกรณ์ รายละเอียดการเชื่อมต่อข้อมูล Browser ภาษาที่ใช้งาน ระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน เป็นต้น |
5. คุกกี้ (Cookie)
สสปน. เก็บรวบรวมและใช้คุกกี้ (Cookie) รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของ สสปน. หรือบนอุปกรณ์ของท่านตามแต่บริการที่ท่านใช้งาน ทั้งนี้รายละเอียดเป็นไปตาม นโยบายคุกกี้ ของ สสปน.
6. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์
กรณีที่ สสปน. ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม เป็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ สสปน. จะไม่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครองบุตร ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ซึ่งโดยปกติ สสปน. จะไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์กรณีที่ สสปน. ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ และมาพบในภายหลังว่า สสปน. ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยยังมิได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ในกรณีเช่นนี้ สสปน. จะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็วหาก สสปน. ไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
7. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
สสปน. ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของบริการหรือกิจกรรมที่ท่านใช้บริการ ตลอดจนลักษณะความสัมพันธ์ของท่านกับ สสปน. หรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำคัญ โดยวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของ สสปน. เป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหรือบริการที่ท่านใช้งานหรือ มีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้กับข้อมูลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
1) เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการดำเนินประโยชน์สาธารณะที่ สสบน. ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง หรือเป็นการจำเป็นเพื่อใช้อำนาจทางกฎหมายที่ สสปน. มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการตามพันธกิจดังปรากฏในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ พ.ศ. 2545 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม กฎหมาย กฎระเบียบหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง
2) เพื่อให้บริการและบริหารจัดการบริการของ สสปน. ทั้งบริการภายใต้สัญญาที่มีต่อท่าน หรือตามพันธกิจของ สสปน.
3) การอนุญาตการเชื่อมต่อและให้บริการ W-Fi ฟรี
4) การทำการตลาดและการติดต่อสื่อสาร รวมถึงการทำการตลาดแบบตรง การส่งข้อมูลทางการตลาด (marketing information) ให้กับท่านและการแจ้งให้ท่นทราบถึงข้อเสนอเกี่ยวกับการส่งเสริมการขาย (promotional offers) เช่น การเชิญชวน Bidding เป็นต้น รายละเอียดเพิ่มเติมจะกล่าวต่อไปในหัวข้อ “การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด"
5) ควบคุมดูแล ใช้งาน ติดตาม ตรวจสอบและบริหารจัดการบริการเพื่ออำนวยความสะดวกและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน
6) จัดทำบันทึกรายการการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
7) วิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับบริการของ สสปน.
8) การลงทะเบียน การยืนยันตัวตน พิสูจน์ตัวตนและตรวจสอบข้อมูลเมื่อท่านสมัครใช้บริการของ สสปน. หรือติดต่อใช้บริการ หรือใช้สิทธิตามกฎหมาย
9) การขอให้ท่านเข้าร่วมการสำรวจ และการประเมินความพึงพอใจ เพื่อให้ สสปน. ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพกิจกรรมและบริการให้ทันสมัย
10) ส่งการแจ้งเตือน การยืนยันการทำคำสั่ง ติดต่อสื่อสารและแจ้งข่าวสารไปยังท่าน
11) ยืนยันตัวตน ป้องกันการสแปม หรือการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือผิดกฎหมาย
12) ตรวจสอบว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าถึงและใช้บริการของ สสปน. อย่างไร ทั้งในภาพรวมและ รายบุคคล และเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการค้นคว้า และการวิเคราะห์ สถิติ
13) ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ที่ สสปน. มีต่อหน่วยงานที่มีอำนาจควบคุม หน่วยงาน. ด้านภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือภาระผูกพันตามกฎหมายของ สสปน.
14) ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของ สสปน. หรือของบุคคลอื่น หรือของนิติบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการการดำเนินการของ สสปน.
15) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ คำสั่งที่มีผลบังคับใช้ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามหมายศาล รวมถึงการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลของท่าน
16) ติดต่อกับท่าน นำส่งเอกสารเพื่อการดำเนินการของกิจกรรมและบริการ และเพื่อจัดการความสัมพันธ์ระหว่าง สสปน.กับท่าน
17) การให้คำแนะนำและข้อเสนอแก่ท่านเกี่ยวกับกิจกรรม และ/หรือ บริการของสสปน.ที่ท่านอาจสนใจ
18) การดำเนินการตามคำขอของท่านที่ส่งผ่านแบบฟอร์มของ สสปน.ผ่านทางเว็บไซค์หรือแอปพลิเคชันบนมือถือ
19) การดำเนินธุรกิจของสสบ่น. เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การตรวจสอบ การพัฒนากิจกรรมใหม่ การปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนบริการ การดูแนวโน้มการใช้งานด้านบริการ การดูประสิทธิภาพของแคมเปญส่งเสริม การขาย การดำเนินงานและการขยายธุรกิจ
20) ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร เชิญร่วมกิจกรรม การจัดกิจกรรม และการสัมมนากับท่าน และ ระบุประเทศของสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ บล็อกเกอร์
21) ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับความเห็น หรือการร้องเรียนจากท่าน และเพื่อทำตามคำขอของท่าน
22) เพื่อรักษาความปลอดภัย การตรวจจับการทุจริต
23) ธุรกรรมทางการเงินและบริการที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน
24) การวิเคราะห์ข้อมูลตามความสนใจหรือพฤติกรรมของท่าน (Profiling) และการวิเคราะข้อมูล (Data An alytics) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (เช่น พฤติกรรม ผลิตภัณฑ์และบริการที่ซื้อ ราคา สถานที่) สำหรับกิจกรรมทางด้านการตลาด และการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ การวิเคราะห์ข้อมูลตามความสนใจ หรือพฤติกรรม (Profiling) และการทำความสะอาดข้อมูล (Data Cleansing) เพื่อทำการค้นคว้าวิจัยทางการตลาด ทำแบบสำรวจ ประเมินผล พฤติกรรม สถิติและการแบ่งประเกท รูปแบบและกระแสความนิยมด้านการบริโภค เพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้ตรงกับความพึงพอใจคาดเดาอุปสงค์ในอนาคต เพื่อพิจารณาความมีประสิทธิภาพของแคมเปญส่งเสริมการขาย
25) เป็นฐานข้อมูลในการจับคู่สร้างงาน (Job Matching) และการจ้างงาน
26) การคัดเลือกผู้ให้บริการ คู่ค้า หน่วยงานพันธมิตร และ Convention Ambassador
27) วัตถุประสงค์ทางธุรกิจ บริหารจัดการความสัมพันธ์ และการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางธุรกิจ
28) การจัดส่งของที่ระลึก
29) เป็นฐานข้อมูลของ สสปน. เพื่อจัดกิจกรรมและบริการ และการตลาด (เช่น ฐานข้อมูลผู้เข้าอบรม และวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญในแขนงต่งๆ ผู้สมัครสมาชิก MICE Intelligence Center วารสาร MICE Guru Thailand MICE One-Stop Service)
30) วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวข้างต้น จะถูกระบุไว้เป็นการเฉพาะเมื่อ สสปน.มีการขอข้อมูลของท่าน หรือเป็นการเก็บรวบรวมและใช้ตามข้อยกเว้นตามกฎหมาย สสปน. อาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้ สสปน. อาจใช้ข้อมูลชีวภาพ (ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว) ของท่าน เพื่ออนุญาตให้เข้าออกพื้นที่หวงห้ามและพื้นที่การประชุมและนิทรรศการ
8.การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด
นอกจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นและภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย สสปน. อาจมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ชื่อและข้อมูลการติดต่อของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับกิจกรรม บริการและโปรโมชั่นต่างๆ การนำเสนอกิจกรรม บริการ ข้อมูลทางการตลาด การส่งเสริมการขายการประชาสัมพันธกิจกรรม และดำเนินการด้านการตลาดแบบตรง (ทางไปรษณีย์ อีเมล โทรศัพท์ และด้วยวิธีการอื่น) เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่ท่านจะได้รับจาก สสปน. ผ่านการแนะนำของกิจกรรมและบริการที่เกี่ยวข้อง โดยที่ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับการสื่อสารการตลาดจาก สสปน.ได้ ในกรณีที่ท่านประสงค์ที่จะไม่ รับการสื่อสารการตลาดจาก สสปน. ท่านสามารถดำเนินการดังต่อไปนี้
1) ท่านสามารถติดต่อยกเลิกการรับการติดต่อทางการตลาดได้ที่เบอร์ 02-694-6000: หรือ
2) ในส่วน "เฉพาะการสื่อสารอีเมล์ที่เกี่ยวข้องกับการตลาด" ท่านสามารถเลือกการเลิกรับอีเมลที่เกี่ยวกับการตลาดเหล่านี้ได้โดยคลิกที่ลิงก์ยกเลิกการรับข้อมูล (unsubscribed) ที่ด้านล่างของอีเมลแต่ละฉบับ
9.ประเภทบุคคลที่ สสปน. เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในข้อ 7 และ 8 ข้างต้น สสปน. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ ประเภทของบุคคลผู้รับข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ สสปน. เป็นการทั่วไป เฉพาะ
ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูล | รายละเอียด |
---|---|
9.1 หน่วยงานของรัฐหรือผู้มีอำนาจที่ สสปน. ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามกฎหมายหรือ วัตถุประสงค์สำคัญอื่น (เช่น การดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ) | หน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือมีอำนาจควบคุมกำกับดูแล หรือมีวัตถุประสงค์อื่นที่มีความสำคัญ เช่น คณะรัฐมนตรีรัฐมนตรีผู้รักษาการ กรมการปกครอง กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจ ศาล สำนักงานอัยการ กรมควบคุมโรค เป็นต้น |
9.2 พันธมิตรทางธุรกิจ | สสปน. อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลที่ร่วมงานกับ สสปน. เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น หน่วยงาน ผู้ให้บริการที่ท่านติดต่อผ่านบริการของ สสปน. ผู้ให้บริการด้าน การตลาด สื่อโฆษณา สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ผู้ให้บริการโทรคมนาคม สมาคมเจ้าของลิขสิทธิ์หลักสูตร สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการสมัครในระบบ MICE Career Platform เครือข่าย eKnowledge Partner เป็นต้น |
9.3 ผู้ให้บริการ | สสปน. อาจมอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นผู้ให้บริการแทน หรือ สนับสนุนการดำเนินการของ สสปน. เช่น ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูล (เช่น คลาวด์ โกดังเอกสาร) ผู้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน เว็บไชต์ ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสาร ผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการโทรศัพท์ ผู้ให้บริการด้าน Digital ID และ ประชาสัมพันธ์ ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการเผยแพร่ข้อมูล ผู้ให้บริการจัดแสดงงาน/กิจกรรม ผู้ให้บริการวิจัย/สำรวจ ผู้ให้บริการผลิตวารสาร ผู้ให้บริการด้านการบริหารความเสี่ยง ที่ปรึกษาภายนอก ผู้ให้บริการขนส่ง ตัวแทนจองที่พัก/ ตั๋วเดินทางเป็นต้น |
9.4 ผู้รับข้อมูลประเภทอื่น | สสปน. อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลผู้รับข้อมูลประเภทอื่น เช่น ผู้ประกอบการ/ลูกค้าที่สนใจสินค้า/กิจกรรม ผู้ขอรับสนับสนุนในการประมูลสิทธิ และการจัดประชุม นานาชาติ ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับบริการของ สสปน. |
9.5 การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ | สสปน. อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านต่อสาธารณะในกรณีที่จำเป็น เช่น การดำเนินการที่กำหนดให้ สสปน. ต้องประกาศลงใน ราชกิจจานุเบกษาหรือมติคณะรัฐมนตรี หรือ MICE Intelligence Center Website เป็นต้น |
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ
สสปน. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีจำเป็นอื่นๆ ซึ่งรวมถึง:
1) การปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่ใช้บังคับ
2) การปฏิบัติตามคำร้องขอจากหน่วยงานรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐ หรือเพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย
3) การตอบสนองต่อความปลอดภัยของบุคคลหรือสาธารณะ
4) การดำเนินคดี การสืบสวน และเรื่องทางกฎหมายอื่นๆ ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้อง
5) การตรวจสอบเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย
10.การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ในบางกรณี สสปน. อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการ ตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศสิงคโปร์ หรือสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของ สสปน. ที่ท่านใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม
อย่างไรก็ตาม เมื่อ สสปน. มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทาง สสปน. จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือดำเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่
1) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้ สสปน. ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
2) ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
3) เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับ สสปน. หรือเป็นการทำตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
4) เป็นการกระทำตามสัญญาของ สสปน. กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
5) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่าน ไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
6) เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
11. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
สสปน. จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่จะได้กำหนดในนโยบายหรือประกาศของสสปน. หรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพันระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ ดังกล่าวแล้ว สสปน. จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่น หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้อง กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สสปน. ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มี คำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด แต่โดยทั่วไปสสปน.จะเก็บข้อมูลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาที่ยังมีนิติสัมพันธ์กัน และเก็บรักษาไว้ต่อไปเป็นเวลาสิบ (๑๐) ปีนับแต่วันที่นิติสัมพันธ์สิ้นสุดลง
12.การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
สสปน. อาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของ สสปน. ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น สสปน. จะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของ สสปน. ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่ สสปน. มอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่ สสปน. มอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของ สสปน. เท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผล เพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้ สสปน. จะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วงในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่าง สสปน. กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
13.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
สสปน. มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้ โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยืดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของ สสปน. อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ โดย สสปน. มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล
เทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการรักษาความปลอดภัยออนไลน์และเครือข่าย
1) Secured Socket Layer (SSL) และ Transport Layer Security (TLS): สสปน.ใช้โปรโตคอลที่ใช้สำหรับการเข้ารหัส ได้แก่ Secure Socket Layer (SSL) และ Transport Layer Security (TLS) บนเว็บไซต์ของ สสปน. ณ จุดที่สสปน.รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อนำไปเข้ารหัส (เช่น ข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลรับรองการเข้า สู่ระบบ) ซึ่งบราวเซอร์ (browser) ที่นิยมส่วนใหญ่ได้แก่ Google Chrome, Firefox, Safari และ Internet Explorer สามารถรองรับเทคนโลยีนี้ได้ โดยสามารถสังเกตได้จากการขึ้นข้อความ HITPS หรือภาพแม่กุญแจตรงบริเวณที่พิมพ์ URL ของเว็บไซต์ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันข้อมูลในขณะที่มีการส่งข้อมูลกันข้าม Internet
2) ไฟร์วอลล์ (Firewall): เพื่ออนุญาตให้มีการเข้าถึงข้อมูลของ สสปน.ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น สสปน. ได้มีการวางชั้นของไฟร์วอลล์ (ระบบรักษาความปลอดภัยของเครื่อข่าย) ระหว่างระบบคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตของ สสปน.
3) ซอฟต์แวร์สแกนไวรัสและมัลแวร์ (Virus and Malware Scan): สสปน.มีการติดตั้งซอฟต์แวร์ สแกนไวรัสและมัลแวร์และอัปเดต เป็นระยะๆ ในคอมพิวเตอร์และเชิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของสสปน.
14.การเชื่อมต่อเว็บไซค์หรือบริการภายนอก
การบริการของ สสปน. อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการ ดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้ สสปน. ขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ สสปน. ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
15. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สสปน. ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ และให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
16. สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ไต้กำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลายประการ โดยรายละเอียดของสิทธิต่าง ๆ ประกอบด้วย
1) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ สสปน. เก็บรวบรวมไว้โดยปราศจากความยินยอมของท่าน เว้นแต่กรณีที่ สสปน. มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่การใช้สิทธิของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
2) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน หากท่านพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นปัจจุบัน ท่านมีสิทธิขอให้แก้ไขเพื่อให้มีความถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
3) สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ สสปน. ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป ทั้งนี้การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
4) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ในกรณีดังต่อไปนี้
ก) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ สสปน. ทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
ข) ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ค) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ สสปน. ได้แจ้งในการเก็บรวบรวม แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ให้ สสปน. เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย
ง) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ สสปน. กำลังพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูล ส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
5) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน เว้นแต่กรณีที่ สสปน. มีเหตุในการปฏิเสธคำขอโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น สสปน. สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของ สสปน.)
6) สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่ สสปน. ในการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าความยินยอมนั้นจะได้ให้ไว้ก่อนหรือหลังพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ) ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรักษาโดย สสปน. เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายให้ สสปน. จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปหรือยังคงมีสัญญาระหว่างท่านกับ สสปน. ที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
7) สิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก สสปน. ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้ สสปน. ส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ทั้งนี้ การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
8) สิทธิในการทราบการมีอยู่ของข้อมูลส่วนบุคคล และการใช้งาน ท่านมีสิทธิในการขอทราบความมีอยู่ ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล และวัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ของ สสปน.
9) สิทธิในการทราบที่มาของข้อมูลส่วนบบุคล ท่านมีสิทธิในการขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านในกรณีที่เป็นข้อมูลซึ่งทำนไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวมหรือจัดเก็บ
17.การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล
ในกรณีที่ท่านพบว่า สสปน. มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยัง คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว สสปน. ขอให้ท่านโปรดติดต่อมายัง สสปน. เพื่อให้ สสปน. มีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ขี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของท่านก่อนในโอกาสแรก
18.การปรับปรุงแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว
สสปน. อาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ https://www.businesseventsthailand.com และทางเว็บเพจ (Webpage) ของ สสปน. ที่ให้บริการ ณ ขณะนั้น โดยมีวันที่มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับแก้ไขกำกับอยู่ อย่างไรก็ดี สสปน. ขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ สสปน.
การเข้าใช้งานกิจกรรมหรือบริการของ สสปน. การติดต่อกับ สสปน. ภายหลังการบังคับใช้นโยบายใหม่ ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในนโยบายใหม่แล้ว ทั้งนี้ โปรดหยุดการเข้าใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้และโปรดติดต่อมายัง สสปน. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป
19.การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ
หากท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของ สสปน. หรือเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือท่านต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
1) ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) ชื่อ: สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 989 อาคารสยามพิวรรธน์ทาวเวอร์ ชั้น 25,26 ยูนิต เอ1,บี2 และบี2 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 ช่องทางการติดต่อ: info@tceb.or.th Call Center: 1105
2) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 989 อาคารสยามพิวรรธน์ทาวเวอร์ ชั้น 25,26 ยูนิต เอ2,บี1 และบี2 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 ช่องทางการติดต่อ: dpo@tceb.or.th Call Center: 1105
นโยบายความเป็นส่วนตัว ฉบับนี้ประกาศใช้ ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป